พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 มาตรา 8 (5) ได้กำหนดให้ทรัพย์สินที่เป็นศาสนสมบัติไม่ว่าของศาสนาใดที่ใช้เฉพาะเพื่อการประกอบศาสนกิจหรือกิจการสาธารณะหรือทรัพย์สินที่เป็นที่อยู่ของสงฆ์ นักพรต นักบวช หรือบาทหลวง ไม่ว่าศาสนาใด หรือทรัพย์สินที่เป็นศาลเจ้า ทั้งนี้ เฉพาะที่มิได้ใช้หาผลประโยชน์ ได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษี แต่หากเป็นกรณีที่ได้ใช้หาผลประโยชน์จะต้องชำระภาษี
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงได้มีการปรับปรุงแบบสัญญาเช่าที่ดิน สัญญาเช่าอาคารและสิ่งปลูกสร้าง โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้พิมพ์ยกร่างขึ้น ซึ่งในแบบสัญญาเช่า ข้อ 6. ระบุให้ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ชำระค่าภาษีโรงเรือน และที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ หรือภาษีอื่นใด ตลอดจนค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งรัฐบาล เทศบาล หรือองค์การบริหารอื่นใดเรียกเก็บจากสถานที่เช่าแทนวัด เพื่อให้การจัดทำสัญญาเช่าของวัดเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ และเป็นการช่วยเหลือวัดมิให้ต้องรับภาระในการชำระค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีนำที่ดินหรืออาคารของวัดไปจัดประโยชน์ให้เช่า